นโยบายความเป็นส่วนตัว | Privacy Policy

ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัท ไทยเอซ แคปปิตอล จำกัด

วันที่ 25 พฤษภาคม 2565

บริษัท ไทยเอซ แคปปิตอล จำกัด (“บริษัท”)  มุ่งเน้นที่จะให้บริการที่ดีที่สุด รวมทั้งให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในความเป็นส่วนตัวของ "ท่าน"    “บริษัท” จึงจัดให้มีนโยบายความเป็นส่วนตัว นี้ เพื่อให้  "ท่าน"ได้รับทราบถึงนโยบายของบริษัท เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ  “ท่าน”   ซึ่งเป็นไปตามไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  พ.ศ.2562  ( “พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” ) กฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จะแจ้งให้  "ท่าน"  ทราบถึง วิธีการที่  “บริษัท”  เก็บรวบรวม ใช้  หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ  "ท่าน"  ประเภทข้อมูล  และวัตถุประสงค์ในการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล   การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก   สิทธิของท่าน   การรักษาความลับ และความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และวิธีการที่ท่านสามารถติดต่อ “บริษัท”

ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว นี้ใช้สำหรับบุคคลดังต่อไปนี้

ประเภทบุคคลที่อยู่ภายใต้นโยบาย

รายละเอียด

1. ลูกค้าของ "บริษัท "

-  ลูกค้าบุคคลธรรมดา    :  ลูกค้าเดิมและลูกค้าปัจจุบันของ ."บริษัท"  ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา

-  ลูกค้าองค์กรธุรกิจ    :   กรรมการ ผู้ถือหุ้น ผู้รับประโยชน์ที่แท้จริง พนักงาน ผู้คํ้าประกัน ผู้ให้หลักประกัน และผู้แทนโดยชอบด้วยกฎหมายของลูกค้าองค์กรธุรกิจเดิมและปัจจุบัน รวมถึงบุคคลธรรมดาอื่นที่มีอำนาจในการกระทำการแทนลูกค้าองค์กรธุรกิจ ทั้งนี้ " บริษัท"ขอแนะนำให้ลูกค้าองค์กรธุรกิจของ" บริษัท"ดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลผู้มีอำนาจกระทำการแทนหรือบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องใดๆ  รับทราบถึงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว ของ " บริษัท"

2. บุคคลที่ไม่ใช่ลูกค้าของ "บริษัท"

 

-  บุคคลดังกล่าวรวมถึงบุคคลธรรมดาที่ไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการกับ "บริษัท "   แต่ "บริษัท "อาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ"ท่าน" เช่น ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมของ    "บริษัท"หรือลูกค้าของ "บริษัท" ผู้ติดต่อสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ ผู้ที่รับทราบข้อมูลผลิตภัณฑ์และ/หรือ บริการผ่านช่องทางต่างๆ บุคคลที่ได้ชำระหรือโอนเงินให้แก่ " บริษัท"  หรือ  รับเงินจากลูกค้าของ" บริษัท" หรือผู้ให้บริการโอนเงินในต่างประเทศ บุคคลที่ได้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของ " บริษัท"หรือเข้าใช้บริการที่สาขาหรือสำนักงานของ " บริษัท"  ผู้คํ้าประกันหรือผู้ให้หลักประกั น ผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง กรรมการหรือผู้แทนโดยชอบด้วยกฎหมายของนิติบุคคล ที่ใช้บริการของ "บริษัท"ลูกหนี้หรือผู้เช่าของลูกค้าของ" บริษัท" ที่ปรึกษาด้านวิชาชีพ รวมถึงกรรมการและผู้ถือหุ้นของ"บริษัท"และตัวแทนโดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลดังกล่าวเป็นต้น

 

 

       หมายเหตุ : ทั้งนี้โปรดทราบว่าลิงก์ที่ปรากฏบนแพลตฟอร์มของ "บริษัท" สามารถนำท่านเข้าสู่แพลตฟอร์มของบุคคลภายนอกได้ ซึ่งหากท่านได้เข้าสู่แพลตฟอร์มของบุคคล  ภายนอก แล้วการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกนั้นทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้ "บริษัท" ขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกนั้นเมื่อท่านเข้าใช้แพลตฟอร์มนั้น ๆ

1. “บริษัท” เก็บรวบรวมและนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้หรือเปิดเผยอย่างไร

       “ บริษัท” จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะกรณีที่จำเป็นหรือมีฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้นซึ่ง  รวมถึงกรณีการเก็บรวบรวม  ใช้  หรือเปิดเผยข้อมูล เพื่อการดำเนินการตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย  การปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับ  “ บริษัท”    เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ“ บริษัท” การดำเนินการตามความยินยอมของท่าน และ/หรือ ภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นๆ  โดยวัตถุประสงค์ในเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของ “บริษัท”  ดังต่อไปนี้

1.1 หน้าที่ตามกฎหมายของ“ บริษัท”                                                             

       เนื่องจาก“ บริษัท”   ต้องดำเนินการตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง “ บริษัท”  จึงมีความจำเป็นจะต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุ ประสงค์ต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบของหน่วยงานรัฐ และ/หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล“ บริษัท”  ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

(ก) เพื่อปฏิบัติตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม
(ข) เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย (เช่น กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน  กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และกฎหมายอื่นที่“บริษัท” ต้องปฏิบัติตาม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการดำเนินการตรวจสอบยืนยันตัวตน  การตรวจสอบ  ประวัติการตรวจสอบเครดิต  การทำความรู้จักลูกค้า (Know  Your  Client)   การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า  (Customer  Due  Diligence) และการตรวจสอบอื่น ๆ ( รวมถึงการตรวจสอบจากฐานข้อมูลสาธารณะของหน่วยงานกำกับดูแล  และ/หรือ  ข้อมูลบุคคลที่ถูกกำหนด ) และการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง และ/หรือ
(ค) เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบและ/หรือคำสั่งของผู้มีอำนาจ เช่น  คำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล “บริษัท” หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ) ทั้งนี้ กรณี  “ บริษัท”   เป็นนายหน้าประกันภัย  “ บริษัท”   จะมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแล  และส่งเสริมธุรกิจประกันภัย  ตามกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย   กฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต และ/หรือ   กฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย   โปรดอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยที่ www.oic.or.th 

 

1.2 สัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับ“ บริษัท”                                                            

       “ บริษัท”   จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามคำขอ และ/หรือ ข้อตกลงที่ท่านได้ทำไว้กับ  “ บริษัท”   ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

(ก) ดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญากับ“ บริษัท”     เช่น การให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ซึ่งรวมถึงการดำเนินการใดๆ ของ“ บริษัท”    ซึ่งหากไม่ได้ดำเนินการแล้วจะกระทบต่อการดำเนินการหรือการให้บริการของ“ บริษัท”     หรือจะไม่สามารถให้บริการได้อย่างเป็นธรรมและต่อเนื่อง  เช่นการวิเคราะห์และประเมินความต้องการของลูกค้า การตรวจสอบคุณสมบัติ การตรวจสอบสถานะของลูกค้านิติบุคคล การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลหรือเอกสาร การพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคล รวมถึงกระบวนการทำความรู้จักลูกค้า (know - your - customer (KYC)) และตรวจสอบสถานะลูกค้า (customer due diligence (CDD)) การประเมินทรัพย์สิน การตรวจสอบข้อมูลเครดิต และ / หรือ การขอแก้ไขข้อมูลเครดิต การตรวจสอบกับรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนด (Sanction List) ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐและ / หรือหน่วยงานทางการซึ่งเปิดเผยเป็นการทั่วไปตามที่กฎหมายกำหนด การตรวจสอบการถูกพิทักษ์ทรัพย์หรือความเป็นบุคคลล้มละลาย การจัดระดับความเสี่ยงลูกค้า การ pre - fill ข้อมูลส่วนตัว / ข้อมูลเพื่อการติดต่อของลูกค้าเพื่อการอำนวยความสะดวกในการสมัครผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการของ “บริษัท”  เป็นต้น
(ข) การดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาให้ผลิตภัณฑ์ และ / หรือบริการต่างๆ เช่น การติดต่อสื่อสาร การประมวลผลคำขอและการดำเนินการตามกระบวนการพิจารณาอนุมัติคำขอ (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การประเมินทรัพย์สินลูกค้า การตรวจสอบและประเมินราคาทรัพย์สิน การทบทวนราคาทรัพย์สิน) การกำหนดวงเงิน สินเชื่อ การเข้าทำสัญญา ข้อตกลง และ / หรือ นิติกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้อง 
(ค) ดำเนินการตามคำสั่งของท่าน (เช่น เพื่อดำเนินการตามคำร้องขอเกี่ยวกับวงเงินกู้และสินเชื่อเพิ่มสภาพคล่องอื่นๆ หนังสือเกี่ยวกับหลักฐานการเงิน แคชเชียร์เช็ค การชำระเงิน หรือคำร้องขอชำระหนี้ หรือ การเปลี่ยนแปลงกรมธรรม์ประกันภัยของท่าน หรือการตอบข้อสงสัยของท่าน) 
(ง) ให้บริการ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (online banking) แอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (mobile applications) และแพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์ออนไลน์อื่น ๆ
(จ) ติดตาม หรือบันทึกการทำธุรกรรมของท่าน
(ฉ) จัดทำรายงานต่างๆ (เช่น รายงานการทำธุรกรรมตามที่ท่านร้องขอ หรือรายงานภายในของ “บริษัท” )
(ช) แจ้งเตือนการทำธุรกรรม และแจ้งเตือนผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการครบกำหนด
(ซ) เรียกชำระหนี้ที่ท่านค้างชำระอยู่กับ “ บริษัท” (เช่น ในกรณีที่ท่านยังไม่ได้ชำระหนี้สินเชื่อ และ/หรือค่าธรรมเนียมค้างชำระ) และ/หรือ
(ฌ) ดำเนินการใดๆ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับกรมธรรม์ประกันภัยหรือการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (เช่น ประเมินคำขอเอาประกันภัยของท่าน เสนอราคาค่าเบี้ยประกันภัย จัดส่งกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ท่าน ดำเนินการหรือติดตามสิทธิเรียกร้องภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยของท่าน ใช้สิทธิเรียกร้องกับบุคคลภายนอก)

 

1.3 ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ“ บริษัท”                                                                  

        “บริษัท” จะอ้างอิงฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยคำนึงถึงประโยชน์ของ “บริษัท” หรือของบุคคลอื่นกับสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ “บริษัท” จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้                            

(ก) บริหารกิจการของ“บริษัท”  และของบริษัทในกลุ่มธุรกิจของ“บริษัท”  (เช่น กำกับตรวจสอบ ข้อมูลบุคคลล้มละลาย บริหารจัดการความเสี่ยง บริหารจัดการภายในองค์กร  เฝ้าระวัง ป้องกัน  และตรวจสอบการทุจริต การฟอกเงิน การก่อการร้าย การประพฤติโดยมิชอบ หรือการก่ออาชญากรรมอื่นๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบุคคลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าองค์กรธุรกิจของ“บริษัท”)
(ข) บริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่าง“บริษัท” และท่าน (เช่น ดูแลลูกค้า ประเมินความพึงพอใจ จัดการข้อ ร้องเรียน)
(ค) บริหารจัดการข้อเรียกร้องและข้อพิพาทต่างๆ ซึ่งรวมถึงการดำเนินการแก้ไขข้อพิพาท การใช้สิทธิตามกฎหมาย หรือการโต้แย้งข้อเรียกร้องทางกฎหมาย
(ง) รักษาความปลอดภัย (เช่น บันทึกภาพ CCTV ลงทะเบียน แลกบัตร และ/หรือ บันทึกภาพ ผู้ติดต่อก่อนเข้าอาคารของ"บริษัท"  การติดตามข้อมูลการใช้เครือข่ายและเหตุการณ์เกี่ยวกับความปลอดภัย)
(จ) พัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบงานต่างๆ ของ“บริษัท” เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการของ“บริษัท” ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในการจัดทำแบบจำลองด้านเครดิต และ/หรือ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการตอบสนองความต้องการของท่าน รวมทั้งวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูล ตลอดจนนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมแก่ท่าน โดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ หากท่านไม่ประสงค์ได้รับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์จาก “บริษัท”  ท่านสามารถติดต่อ  โทร.02-744-2222
(ฉ) บันทึกภาพและ/หรือเสียงเกี่ยวกับการจัดประชุม อบรม สัมมนา สันทนาการ หรือกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และ/หรือ
(ช) กรณีลูกค้าองค์กรธุรกิจของ“บริษัท” "บริษัท"จะมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน หรือตัวแทน

 

1.4 ความยินยอมของท่าน                                                               

       ในบางกรณี “บริษัท” อาจมีการขอความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์สูงสุด และ/หรือ เพื่อให้ “บริษัท” สามารถให้บริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของท่าน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

(ก) มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (sensitive personal data) (เช่น ใช้ข้อมูลการจดจำใบหน้า (face recognition) หรือภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน (ซึ่งในบัตรดังกล่าวจะมีข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน ได้แก่ ศาสนา และ/หรือกรุ๊ปเลือดอยู่) ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่านก่อนการทำธุรกรรม)
(ข) เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใดๆ ของท่านไปวิจัยและวิเคราะห์เพื่อประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของท่านอย่างแท้จริง และ/หรือ ติดต่อท่านเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมแก่ท่านโดยเฉพาะ
(ค) ติดต่อท่านเพื่อให้คำปรึกษาทางการเงินและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของ “บริษัท” ที่ท่านอาจจะสนใจ (ในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)
(ง) กรณีท่านเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี) (เว้นแต่เป็นกรณีที่พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม)
(จ) เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใด ๆ ของท่าน ให้แก่บริษัทในกลุ่มธุรกิจของ “บริษัท”  และพันธมิตรทางธุรกิจที่เชื่อถือได้ของ“บริษัท”  เพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้  (1) วิจัย ทำข้อมูลสถิติ พัฒนา วิเคราะห์ ผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่ตอบสนองความต้องการของท่าน และ (2) ติดต่อท่านเพื่อเสนอหรือจัดให้มีผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมแก่ท่าน  และ/หรือ
(ฉ) การดำเนินการอื่นที่“บริษัท”  ต้องได้รับความยินยอมของท่าน

 

1.5 ฐานทางกฎหมายอื่นๆ                                                                

       นอกเหนือไปจากฐานทางกฎหมายข้างต้น “บริษัท” อาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นดังต่อไปนี้   

(ก) จัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ
(ข) ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
(ค) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อการใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่

       หากข้อมูลส่วนบุคคลที่ “บริษัท “  เก็บรวบรวมจากท่านมีความจำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามกฎหมายของ “บริษัท” หรือเพื่อการเข้าทำสัญญากับท่าน “บริษัท” อาจจะไม่สามารถให้บริการ (หรือดำเนินการเพื่อให้บริการต่อไป) ผลิตภัณฑ์หรือบริการบางส่วนหรือทั้งหมดของ”บริษัท” แก่ท่านได้ หากท่านไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นแก่“บริษัท”  เมื่อ “บริษัท” ร้องขอ

 

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ “บริษัท” เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ “บริษัท” เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขอบเขตของผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการที่ท่านอาจเคยใช้หรือสนใจ โดยมีทั้งข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปและข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้

ประเภทข้อมูล

ตัวอย่างข้อมูลส่วนบุคคล

 
   

รายละเอียดส่วนบุคคล

•  คำนำหน้าชื่อ ,ชื่อ, ชื่อกลาง (ถ้ามี)  , นามสกุล

   

•  วันเดือนปีเกิด

   

•  อายุ

   

•  การศึกษา

   

•  สถานภาพสมรส และ จำนวนบุตร

•  ชื่อคู่สมรส

   

•  สัญชาติ

   

•  ข้อมูลความสัมพันธ์ (เช่นระหว่างผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วม , ท่านและผู้รับสิทธิ ประโยชน์ เป็นต้น)

   

รายละเอียดที่ใช้ในการระบุตัวตนและการยืนยันตัวตน

•  ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน , ทะเบียนบ้าน

   

•  เลขประจำตัวประชาชน, เลข laser (ด้านหลังบัตรประจำตัวประชาชน)

   

•  หนังสือสำคัญการเปลี่ยนชื่อ -สกุล

   

•  ข้อมูลหนังสือเดินทาง

   

•  ข้อมูลหนังสือสำคัญ, บัตรประจำตัวคนต่างด้าว

   

•  ใบอนุญาตทำงาน

   

•  ใบอนุญาตขับรถ

   

•  ลายมือชื่อ

   

รายละเอียดทรัพย์สิน หรือรายละเอียดหลักประกัน

•  ทะเบียนรถยนต์

   

•  ทะเบียนเครื่องจักร

   

•  โฉนดที่ดิน / ห้องชุด

   

•  ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่เชื่อมโยงหรือถูกเชื่อมโยงกับหนึ่งในข้างต้น เช่น      ชื่อ-นามสกุล เจ้าของกรรมสิทธิ์

   

รายละเอียดการติดต่อ

•  ที่อยู่ติดต่อทางไปรษณีย์

   

•  ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ตามบัตรประชาชน

   

•  ที่อยู่ปัจจุบัน

   

•  ที่อยู่อิเล็กทรอนิกส์

   

•  หมายเลขโทรศัพท์

   

•  หมายเลขโทรสาร

   

•  บัญชี Social Media

   

รายละเอียดการทำงาน

•  อาชีพ

   

•  รายละเอียดเกี่ยวกับนายจ้างและสถานที่ทำงาน

   

•  ตำแหน่ง

   

•  เงินเดือน

   

•  อายุงาน

   

•  ค่าตอบแทน

   

ข้อมูลความเป็นเจ้าของกิจการ

•  สัดส่วนการถือหุ้น และ/หรือ ข้อมูลบนเอกสารอื่นใดเพื่อยืนยันการ ประกอบธุรกิจ ( เช่น หนังสือรับรองบริษัท  ,

    สัญญาเช่าสถานที่ประกอบ กิจการ เป็นต้น)

   

รายละเอียดทางการเงินและการทำธุรกรรม

•  ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการต่างๆ ที่ท่านใช้อยู่

   

•  เลขที่บัญชีเงินฝาก จำนวนเงินฝาก

   

•  ข้อมูลรายได้ แหล่งที่มาของรายได้ และรายจ่าย

   

•  ข้อมูลบนหนังสือรับรองเงินเดือน สลิปเงินเดือน /โบนัส หรือหลักฐาน แสดงรายได้อื่นๆ , เอกสารการเดินบัญชี

    ของธนาคาร 

   

•  ราคาประเมินทรัพย์สิน

   

•  ข้อมูลการใช้ช่องทาง ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ

   

•  ประวัติการทำธุรกรรม รายละเอียดธุรกรรมและวัตถุประสงค์ในการทำธุรกรรม ข้อมูลในบันทึกช่วยจำการทำ

    ธุรกรรม หมายเลขอ้างอิงการทำธุรกรรม ช่องทางการทำธุรกรรม

   

•  ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมของท่าน (เช่น ประเภท จำนวน และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมของท่าน)

   

•  ข้อมูลการเอาประกันภัย (เช่น เอกสารคำขอเอาประกันภัย ประเภทการเอาประกันภัย คำขอเอาประกันภัย รายละเอียดข้อมูลกรมธรรม์ประกันภัย วันที่เริ่มและวันที่สิ้นสุดการคุ้มครอง รายละเอียดทรัพย์สินที่เอาประกันภัย เบี้ยประกันภัย ทุนประกันภัย และรายละเอียดการใช้สิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัย)

   

ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบ

•  ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริง (Due diligence) (เช่น ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำความรู้จักลูกค้า (KYC) การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (customer due diligence))

   

•  ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบและการบริหารความเสี่ยง การตรวจสอบ การฟอกเงินและต่อต้านการก่อการร้าย  บุคคลล้มละลาย เป็นต้น

   

ข้อมูลการเข้าใช้ และการขอใช้บริการ

•  ข้อมูลการเข้าใช้ระบบของ “บริษัท” การทำธุรกรรมกับ “บริษัท”ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และแอปพลิเคชันของ “บริษัท”

   

ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย

•  รูปภาพ

   

•  ลักษณะรูปพรรณสัณฐานบุคคล

   

•  การตรวจพบข้อสงสัยหรือกิจกรรมที่ผิดปกติ

   

•  ภาพถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด

   

•  บันทึกวีดีโอ  / บันทึกเสียง

   

ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว

“บริษัท” ไม่มีเจตนาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนจากท่าน  หากแต่ในบางกรณี “บริษัท” อาจจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนจากท่านเพื่อประกอบการให้บริการหรือผลิตภัณฑ์แก่ท่าน เช่น

   

 

• ข้อมูลสุขภาพ (เช่น ข้อมูลตามที่ระบุในใบคำขอเอาประกันภัย เหตุผลประกอบการค้างชำระหนี้ ใบรับรองแพทย์ ข้อมูลการแพ้อาหารข้อมูลเกี่ยวกับการคัดกรองโรคติดต่อ)

• ประวัติอาชญากรรม (เช่น ข้อมูลตามที่ปรากฏในรายชื่อบุคคลถูกกำหนด (Sanction List) และบุคคลเฝ้าระวัง (Watch List) ที่ออกโดยหน่วยงานรัฐที่มีอำนาจ ซึ่งอาจทำให้บริษัททราบถึงประวัติอาชญากรรมอันเกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานต่างๆ ความผิดฐานก่อการร้ายหรือสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ข้อมูลการล้มละลายจากการทุจริต)

• ความคิดเห็นทางการเมือง (เช่น ข้อมูลตามที่ปรากฏในรายชื่อบุคคลถูกกำหนด (Sanction List) และบุคคลเฝ้าระวัง (Watch List) หรือฐานข้อมูลอื่นใด ซึ่งอาจทำให้บริษัททราบถึงสถานภาพทางการเมือง)

• ความพิการ (เช่น สำนาบัตรประจำตัวผู้พิการ ประเภทความทุพพลภาพ หนังสือรับรองจากสมาคมคนพิการ)

•  ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ลายพิมพ์นิ้วมือ ภาพถ่ายจำลองใบหน้า)

   

ทั้งนี้ “บริษัท” จะเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนต่อเมื่อ “บริษัท” ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่”บริษัท” มีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต โดยจะดำเนินการเป็นคราวๆ ไปเมื่อต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนจากท่าน

   

ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์

“ บริษัท” ไม่มีเจตนาที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์   เว้นแต่ “บริษัท” จะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง  หรือการใดๆ ซึ่งผู้เยาว์อาจให้ความยินยอมโดยลำพังได้ตามกฎหมาย (แล้วแต่กรณี)

   

ข้อมูลอื่นๆ

•  บันทึกการโต้ตอบและการสื่อสารระหว่างท่านกับ”บริษัท”  ไม่ว่าจะในรูปแบบหรือวิธีใดๆ ก็ตาม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง  โทรศัพท์ อีเมล ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ (social media)

   

•  ข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยและการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (เช่น ข้อมูลความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย ข้อมูลการรักษาพยาบาล ข้อมูลประวัติการเรียกร้องสินไหมทดแทน)

   

•  ข้อมูลที่ท่านให้ไว้กับ “บริษัท” ไม่ว่าผ่านช่องทางใดๆ

   

 

3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

    โดยทั่วไปแล้ว “บริษัท” จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง ดังต่อไปนี้

(ก) เมื่อท่านสมัครใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของ “บริษัท” 
(ข) บทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างท่านกับ “บริษัท” หรือสำนักงานสาขา รวมถึงการบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ อีเมล์ บันทึกข้อความ หรือวิธีการอื่นใด
(ค) เมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือใช้แอพพลิเคชั่นของ “บริษัท” ผ่านทางมือถือ 
(ง) ข้อมูลที่ได้จากเอกสาร
(จ) เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนกรมธรรม์ประกันภัย หรือเอกสารอื่น ๆ
(ฉ) การตรวจสอบ และคำชี้แจงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการเงิน
(ช)

เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายกับ “บริษัท” 

แต่ในบางกรณี“บริษัท” อาจได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่น ซึ่ง“บริษัท” จะดำเนินการให้เป็นไปตามที่ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กำหนด ข้อมูลส่วนบุคคลที่“บริษัท” เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่น อาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้

(ซ) เมื่อท่านทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฎแก่สาธารณะอย่างชัดแจ้ง รวมถึงเปิดเผยข้อมูลผ่านทางโซเชียลมีเดีย (social media) ในกรณีดังกล่าว “บริษัท”จะเลือกเก็บรวบรวมเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านเลือกให้ปรากฎต่อสาธารณะเท่านั้น
(ฌ) ข้อมูลที่“บริษัท” ได้รับจากบริษัทในกลุ่มธุรกิจของ“บริษัท” พันธมิตรทางธุรกิจ และ/หรือ บุคคลอื่นใดที่“บริษัท” มีนิติสัมพันธ์ด้วย
(ญ) ข้อมูลที่“บริษัท” ได้รับจากบุคคลที่มีความเกี่ยวเนื่องกับท่าน (เช่น ครอบครัวของท่าน เพื่อน ผู้แนะนำ)
(ฎ) ข้อมูลที่“บริษัท” ได้รับจากลูกค้าองค์กรธุรกิจ ในฐานะที่ท่านเป็นกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทน ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือผู้ติดต่อ
(ฏ) ข้อมูลที่“บริษัท” ได้รับจากหน่วยงานราชการ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล“บริษัท” สถาบันการเงิน บริษัทข้อมูลเครดิต และ/หรือ ผู้ให้บริการภายนอก (เช่น ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรม ข้อมูลเครดิต) และ/หรือ
(ฐ) ข้อมูลที่“บริษัท” ได้รับจากบริษัทประกัน และ/หรือ บุคคลอื่นใด ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับกรมธรรม์ประกันภัยหรือการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน

 

    ในกรณีที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่“บริษัท” ในการทำธุรกรรมกับ“บริษัท” หรือในกรณีอื่นใด ท่านจะต้องแจ้งให้บุคคลดังกล่าวทราบถึงรายละเอียดการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิตามนโยบายความเป็นส่วนตัว นี้ด้วย

 

 4.  สิทธิตามกฎหมายของท่าน

       พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิของท่านตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ตามช่องทางที่“บริษัท” กำหนด                               

  • สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน                                                            

ท่านมีสิทธิเข้าถึงและได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่“บริษัท” มีอยู่ เว้นแต่กรณีที่“บริษัท” มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น                                    

  • สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน                                                          

ท่านมีสิทธิขอให้“บริษัท” ทำการแก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนหรือไม่ทันสมัย               

  • สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน                                                          

ท่านมีสิทธิขอให้ “บริษัท” ลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่“บริษัท” จะมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน                                                     

  • สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน                                                            

ท่านมีสิทธิขอให้“บริษัท” ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี (เช่น“บริษัท” อยู่ระหว่างการตรวจสอบคำขอใช้สิทธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือท่านขอให้“บริษัท” ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากท่านมีความจำเป็นต้องขอให้“บริษัท” เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย)                                        

  • สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน                                        

ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่“บริษัท” ดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรงหรือการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่กรณีที่“บริษัท” มีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น “บริษัท” สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของ“บริษัท”)             

  • สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน                                                     

ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่“บริษัท” สามารถทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้“บริษัท” ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่“บริษัท” ได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่“บริษัท” ไม่สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือ“บริษัท” มีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย                                                   

  • สิทธิในการขอถอนความยินยอม                                                              

 ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับ“บริษัท” เมื่อใดก็ได้ ตามขั้นตอนและวิธีการที่“บริษัท” กำหนด เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอมได้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ ก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าวท่านสามารถตรวจสอบและเปลี่ยนแปลงการให้ความยินยอมในการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดได้ผ่านช่องทางการใช้สิทธิตามที่ระบุในข้อ 11 ด้านล่าง หรือช่องทางอื่นที่“บริษัท” กำหนดในภายหน้า                                     

  • สิทธิในการร้องเรียน                                                        

ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หาก“บริษัท” กระทำการอันเป็นการไม่ปฏิบัติตามพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

“บริษัท” อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือองค์กรดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ของ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

(ก) บริษัทในกลุ่มธุรกิจของ“บริษัท” พันธมิตรทางธุรกิจ และ/หรือ บุคคลอื่นใดที่“บริษัท” มี นิติสัมพันธ์ด้วย รวมถึงกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของ“บริษัท” และ/หรือ ของบุคคลดังกล่าว
(ข) หน่วยงานของรัฐ และ/หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล“บริษัท” (เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย)
(ค) คู่ค้า ตัวแทน หรือองค์กรอื่น (เช่น ผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ คลังเก็บเอกสาร) ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลบุคคลส่วนบุคคลของท่านจะมีวัตถุประสงค์โดยเฉพาะเจาะจง ภายใต้ฐานทางกฎหมาย และมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสม
(ง) “บริษัท” และสถาบันการเงินอื่นๆ รวมทั้งบุคคลภายนอก ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้ต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อช่วยให้บุคคลดังกล่าวได้รับเงินคืนในกรณีที่มีการนำเงินเข้าบัญชีของท่านโดยผิดพลาด หรือการตรวจสอบเส้นทางการเงินในกรณีที่ท่านตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางการเงิน
(จ) ทนายความ บริษัทข้อมูลเครดิต หน่วยงานป้องกันการทุจริต ศาล หน่วยงาน หรือบุคคลใดๆ ที่“บริษัท” ถูกกำหนดหรือได้รับอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย กฎระเบียบ หรือคำสั่ง
(ฉ) บุคคลภายนอกที่ให้บริการต่างๆ แก่“บริษัท” เช่น บริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จํากัด (มหาชน)
(ช) ผู้ให้บริการด้านสื่อสังคมออนไลน์ (ในรูปแบบที่ปลอดภัย) หรือบริษัทโฆษณาภายนอก เพื่อแสดงข้อความให้แก่ท่าน และบุคคลอื่นใดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของ “บริษัท” โดยบริษัทโฆษณาภายนอกอาจใช้ข้อมูลประวัติกิจกรรมออนไลน์ของท่าน เพื่อจัดสรรการโฆษณาที่ท่านอาจสนใจ
(ซ) ผู้ให้หลักประกันที่เป็นบุคคลภายนอก
(ฌ) บุคคลอื่นใดที่ให้ผลประโยชน์หรือให้บริการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของท่าน (เช่น บริษัทประกันภัย) และ/หรือ
(ญ) ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วง ตัวแทน หรือผู้แทนโดยชอบธรรมของท่านที่มีอำนาจตามกฎหมายโดยชอบ

 

 6. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

       “บริษัท” จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้าของ“บริษัท” หรือมีความสัมพันธ์อยู่กับ“บริษัท” หรือตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้  และเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับ“บริษัท”  (เช่น หลังจากที่ท่านปิดบัญชีทั้งหมดที่มีอยู่กับ“บริษัท”  หรือนับแต่การทำธุรกรรมกับ“บริษัท” หรือกรณี“บริษัท” ปฏิเสธคำขอใช้บริการของท่าน หรือท่านขอยกเลิกการใช้บริการของ“บริษัท”)   “บริษัท” จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่เหมาะสมและจำเป็นสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทและวัตถุประสงค์ตามที่พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

       “บริษัท” จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามอายุความ หรือระยะเวลาที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (เช่น กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 5-10 ปี นับแต่ยุติความสัมพันธ์ตามแต่กรณี  กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง กฎหมายการบัญชี กฎหมายภาษีอากร กฎหมายแรงงาน และกฎหมายอื่นที่“บริษัท” ต้องปฏิบัติตาม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้ “บริษัท” อาจจะจำเป็นต้องเก็บบันทึกข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่สำนักงานใหญ่ และสาขา ของ“บริษัท”  และ/หรือ การบันทึกเสียงการให้บริการผ่าน Call Center เพื่อป้องกันเหตุทุจริตและการรักษาความปลอดภัย รวมถึงตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัยที่ท่านหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องอาจแจ้งมายัง“บริษัท”

       ทั้งนี้“บริษัท”จะมีการดำเนินการในขั้นตอนที่เหมาะสม เพื่อทำการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

 

7. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม

       “บริษัท” มีสิทธิในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่“บริษัท” ได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้“บริษัท” เก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถแจ้ง “บริษัท”  เพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้

 

8. การรักษาความปลอดภัย

       “บริษัท” มีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยภายใน“บริษัท” และการใช้บังคับนโยบายอย่างเข้มงวดในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการเข้ารหัสข้อมูล และมาตรการป้องกันการเข้าถึงข้อมูล โดย“บริษัท” กำหนดให้บุคลากรของ“บริษัท” จะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานและนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่เหมาะสม รวมถึงจะต้องจัดให้มีการดูแลรักษาข้อมูลและมีมาตรการที่เหมาะสมในการใช้หรือการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

       "บริษัท" จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Safeguard) มาตรการเชิงบริหารจัดการ (Administrative Safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical Safeguard) เพื่อรักษาไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้องครบถ้วน สภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการเข้าถึง เก็บรวบรวม เปลี่ยนแปลง แก้ไข ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้เป็นไปตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด

       "บริษัท"ได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดย “บริษัท” ได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ปลอดภัยและเหมาะสม การจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล การกำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน สิทธิในการอนุญาตให้พนักงานที่ได้รับมอบหมายให้เข้าถึงข้อมูล และหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจัดให้มีมาตรการสำหรับการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่สอดคล้องเหมาะสมกับวิธีการและเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการตรวจสอบเพื่อประเมินประสิทธิผลของการปฏิบัติตามนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

       นอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจาก “บริษัท” มีหน้าที่ต้องรักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่ “บริษัท” กำหนดขึ้น

 

9. การใช้คุกกี้ (Cookies)

       เพื่อความสะดวกในการเข้าใช้งานระบบเว็บไซต์ของผู้ใช้บริการ “ บริษัท” อาจจะใช้ระบบคุกกี้ (Cookies) ในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลตัวตนของผู้ใช้งาน  การใช้คุกกี้ เพื่อจัดเก็บข้อมูลและสถิติต่าง ๆ ของการเข้าใช้งานระบบเว็บไซต์ “คุกกี้ (Cookies)” เป็นไฟล์คอมพิวเตอร์เล็ก ๆ ที่จะทำการเก็บข้อมูลชั่วคราวที่จำเป็น ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้บริการ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการติดต่อสื่อสาร มีผลในขณะที่เข้าใช้งานระบบเว็บไซต์เท่านั้น คุกกี้จะหมดอายุหรือสิ้นผล เมื่อสิ้นสุดการใช้งานระบบเว็บไซต์หรือการเชื่อมโยงข้อมูลของ “บริษัท”  หรือจนกว่าผู้ใช้บริการจะทำการลบ “คุกกี้” นั้นเสีย หรือกระทำการที่ไม่อนุญาตให้ “คุกกี้” นั้นทำงานอีกต่อไป

       “ บริษัท” มีการใช้ระบบ Cookies โดยตระหนักถึงความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ เป็นหลัก  “บริษัท” จึงมีการจัดเก็บ “คุกกี้” จำแนกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

1. คุกกี้ที่จัดเก็บข้อมูล ซึ่ง “บริษัท” จะจัดเก็บเข้าระบบการให้บริการสำหรับการให้บริการระบบเว็บไซต์ เพื่อใช้ในธุรกิจของ “บริษัท” เท่านั้น โดยจะไม่มีการเปิดเผยหรือนำไปใช้ประโยชน์อื่น ยกเว้นเป็นการร้องขอตามกฎหมาย

2. คุกกี้ที่จัดเก็บข้อมูลสถิติการเข้าใช้ระบบเว็บไซต์ ซึ่ง “บริษัท” มีระบบการให้บริการในการตรวจสอบพฤติกรรมการสืบค้นข้อมูลหรือใช้บริการเชื่อมโยงข้อมูล เช่น วันและเวลาที่เข้าใช้งานระบบเว็บไซต์ การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือหน้าเว็บเพจต่าง ๆ ประเภทการสืบค้น ผู้ให้บริการระบบอินเทอร์เน็ต โดย “บริษัท” มีการเก็บรวบรวมข้อมูลด้านพฤติกรรม เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงเว็บไซต์และการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น

       ทั้งนี้ “บริษัท “ จะนำข้อมูลที่ “คุกกี้” ได้บันทึกหรือเก็บรวบรวมไว้ ไปใช้ในการวิเคราะห์ เชิงสถิติ หรือในกิจกรรมอื่นของระบบเว็บไซต์หรือกิจการของ “บริษัท”  เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพการให้บริการระบบเว็บไซต์ของ “บริษัท”

 

10. หน้าที่ของท่าน

       ท่านมีหน้าที่ตรวจสอบว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับ “ บริษัทไม่ว่าจะด้วยตัวของท่านเอง หรือในนามของท่าน มีความถูกต้อง และเป็นปัจจุบัน และท่านมีหน้าที่ต้องแจ้งให้ “ บริษัท”  ทราบโดยเร็วที่สุด หากข้อมูลดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลง

       เมื่อท่านเข้าทำสัญญากับ “บริษัท” แล้ว ท่านจะมีหน้าที่ตามสัญญาในการส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ “บริษัท”  เพื่อให้ท่านสามารถใช้สิทธิทางกฎหมายได้ การไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าวอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียสิทธิทางกฎหมาย

       ท่านมีความจำเป็นที่จะต้องส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลการติดต่อ และข้อมูลการจ่ายเงินให้กับ “ บริษัท”   เพื่อให้ “บริษัท” สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ หากท่านไม่ส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว อาจทำให้ “บริษัท” ไม่สามารถใช้สิทธิ และปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันที่เกิดขึ้นจากสัญญาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

11. วิธีการติดต่อ"บริษัท"

       หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว ของ “บริษัท” โปรดติดต่อตามช่องทางดังต่อไปนี้

•   บริษัท ไทยเอซ แคปปิตอล จำกัด

สำนักงานใหญ่ เลขที่ : 555  ถนนนวมินทร์  แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10240  (ติดถนนใหญ่อยู่ระหว่างซอยนวมินทร์ 52 กับ ซอยนวมินทร์ 54)  โทร: 02-744-2222

•   เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

โดยติดต่ออีเมล์ [email protected] หรือตามที่อยู่ของ“บริษัท” ข้างต้น

•   หากท่านต้องการขอใช้สิทธิตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

โปรดติดต่อบริษัทฯ ผ่านช่องทางสำนักงานของบริษัท  หรือ โทร.02-744-2222 ต่อ 6415 , 6411

 

12. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว

       "บริษัท" อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายความเป็นส่วนตัว นี้เป็นครั้งคราว   โดย “บริษัท”  จะแจ้งประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว ฉบับปัจจุบันไว้ที่เว็บไซต์ของ “ บริษัท "   www.tcapital.co.th